แพลตฟอร์มออนไลน์

อยากขายของออนไลน์ เลือกแพลตฟอร์มไหนดี?

สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นหรือต้องการขยายธุรกิจสู่โลกออนไลน์ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ไหนดี บทความนี้คือคู่มือฉบับเข้าใจง่าย ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ สินค้าออนไลน์ และ กลุ่มเป้าหมายออนไลน์ ของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, LINE MyShop, Facebook Marketplace, Instagram Shopping, TikTok Shop เราจะเจาะลึกถึงปัจจัยสำคัญและให้คำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อให้คุณเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

ทำไมการเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์จึงสำคัญ?

การเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย ต้นทุน และการเข้าถึงลูกค้าของคุณ การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ จะช่วยให้คุณ

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่  แต่ละแพลตฟอร์มมีฐานผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน
  • ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น  ค่าธรรมเนียมและเครื่องมือทางการตลาดแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม (ต้นทุนขายของออนไลน์, ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม)
  • บริหารจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ระบบจัดการร้านค้าและขนส่งมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์  การมีหน้าร้านบนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์

4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์

เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล เราได้สรุปขั้นตอนสำคัญในการเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ไว้ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์สินค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

ก่อนที่จะมองหาแพลตฟอร์ม สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจ สินค้าออนไลน์ ที่คุณต้องการขาย และ กลุ่มเป้าหมายออนไลน์ หลักของคุณคือใคร

  • สินค้าของคุณคืออะไร? เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง, อาหาร, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, งานฝีมือ
  • สินค้าของคุณมี ราคา ประมาณเท่าไหร่
  • ต้องการการนำเสนอภาพลักษณ์แบบไหน เช่น สวยงาม, น่าเชื่อถือ, สนุกสนาน
  • กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร? อายุ, เพศ, ความสนใจ,  ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไหนมากที่สุด, มีพฤติกรรมการซื้อออนไลน์อย่างไร 

ขั้นตอนที่ 2 เปรียบเทียบจุดเด่นและข้อจำกัดของแต่ละแพลตฟอร์ม

มาดูกันว่าแพลตฟอร์มยอดนิยมในปี 2025 มีจุดเด่นและข้อจำกัดอะไรบ้าง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับความต้องการของคุณ

Shopee

  • จุดเด่น : ฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่, โปรโมชั่นและแคมเปญหลากหลาย, ระบบจัดการร้านค้าและขนส่งครบวงจร, เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ หลากหลาย (เช่น Shopee Ads, Shopee Live), เหมาะสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท
  • ข้อจำกัด : การแข่งขันสูง, อาจมี ค่าธรรมเนียม Shopee การขายและค่าคอมมิชชั่น, ระบบรีวิวและการให้คะแนนที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ 

Lazada

  • จุดเด่น : ฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่, โปรโมชั่นและแคมเปญ, ระบบจัดการร้านค้าและขนส่ง, มีเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์, เหมาะสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าแบรนด์
  • ข้อจำกัด :  การแข่งขันสูง, อาจมี ค่าธรรมเนียม Lazada และค่าคอมมิชชั่น, ระบบรีวิวและการให้คะแนน

LINE MyShop

  • จุดเด่น :  เชื่อมต่อกับ LINE OA ได้ง่าย, เข้าถึงลูกค้า LINE ได้โดยตรง, เครื่องมือสร้างร้านค้าและบรอดแคสต์ข้อความ, เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีฐานลูกค้าเดิมบน LINE
  • ข้อจำกัด : ฐานผู้ใช้งานอาจจำกัดกว่า Shopee และ Lazada, ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่ครอบคลุมเท่า

Facebook Marketplace

  • จุดเด่น :  เข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook จำนวนมาก, ไม่เสียค่าธรรมเนียมลงขาย, เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น, สินค้ามือสอง, สินค้าเฉพาะกลุ่ม
  • ข้อจำกัด :  ระบบจัดการร้านค้าและขนส่งไม่เป็นระบบ, ความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับการสื่อสาร, อาจต้องนัดรับสินค้าเอง

Instagram Shopping

  • จุดเด่น : เน้นการนำเสนอด้วยรูปภาพและวิดีโอสวยงาม, เหมาะสำหรับสินค้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง, อาหาร, ไลฟ์สไตล์, เครื่องมือโปรโมทผ่าน Stories และ Reels
  • ข้อจำกัด : ฟีเจอร์การซื้อขายอาจไม่สมบูรณ์เท่า E-commerce โดยตรง, การชำระเงินและจัดส่งอาจต้องจัดการเอง

TikTok Shop

  • จุดเด่น :  เข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials, รูปแบบวิดีโอสั้นและ Live สด ดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมสูง, เครื่องมือสร้างคอนเทนต์และโปรโมทที่ใช้งานง่าย, ระบบจัดการร้านค้าและขนส่งครบวงจร, เหมาะสำหรับสินค้าแฟชั่น, บิวตี้, อาหาร, และสินค้าที่นำเสนอด้วยวิดีโอได้ดี
  • ข้อจำกัด : อาจมีค่าธรรมเนียมการขายและค่าคอมมิชชั่น, การแข่งขันด้านคอนเทนต์สูง, ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอ, กลุ่มเป้าหมายอาจจำกัดเฉพาะผู้ใช้งาน TikTok เป็นหลัก

ขั้นตอนที่ 3 พิจารณาปัจจัยเสริมอื่นๆ

นอกจากสินค้าและกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรนำมาพิจารณา

  • งบประมาณ  ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม, ค่าโฆษณา, ค่าบริการต่างๆ ต้นทุนขายของออนไลน์
  • ความสะดวกในการใช้งาน  ระบบใช้งานง่าย, มีคู่มือช่วยเหลือ
  • การสนับสนุนลูกค้า ช่องทางการติดต่อ, ความรวดเร็วในการตอบกลับ 
  • เครื่องมือทางการตลาด ระบบโปรโมชั่น, แคมเปญ, การวิเคราะห์ข้อมูล 

ศักยภาพในการเติบโต แนวโน้มของแพลตฟอร์ม, การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ

ขั้นตอนที่ 4 เริ่มต้นและปรับเปลี่ยน

ไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงแพลตฟอร์มเดียว คุณสามารถเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด และเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ค่อยขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการ เริ่มต้นขายของออนไลน์ ทดลอง และ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ขายของออนไลน์ ตามผลลัพธ์ที่ได้

การเลือก แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ที่เหมาะสมคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณมากที่สุด

Discover more from BeTask

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading